รีวิว 10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี ฟังลื่น สบายหู

หากพูดถึงเครื่องเสียงอย่างลำโพงคงเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้งานกันทั่วโลก โดยสามารถสร้างเสียงบันเทิง และความเร้าใจในการรับชมภาพยนต์ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าหลายๆคนคงรู้จักลำโพง BOSE ลำโพง SONY ลำโพง JBL ลำโพง Microlab ฯลฯ ซึ่งสามารถนำไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์ สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน เป็นต้น ส่งผลให้มีอรรถรสมากกว่าหูฟังในการฟังเพลง ดูหนัง เสียงเบสแน่น นุ่มลึกและมีมีติอย่างมาก ซึ่งมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และย่านเสียงอื่นๆมีความคมชัด ไม่แหลม ไม่สูงจนเกินไป แต่ทว่าก็มีแบรนด์ยอดฮิตที่นักดนตรี หรือร้านอาหาร ร้าน คาเฟ่ต่างๆนิยมใช้กันมากที่สุดคือ ‘ลำโพง Marshall’ เพราะเป็นแบรนด์ระดับ High Top ในเรื่องดีไซน์ คุณภาพเสียง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความทนทานของอุปกรณ์ เรียกได้ว่ามีคุณภาพครบวงจรเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่กำลังสนใจลำโพง ให้บทความของเราเป็นข้อมูลในการพิจารณาเลือกซื้อให้แก่คุณ ซึ่งมาหาคำตอบกับบทความรีวิวลำโพง Marshall แต่ละรุ่นพร้อมๆกันได้เลย

ลำโพง Marshall

รีวิว 10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี ฟังลื่น สบายหู

1.       ลำโพง Marshall Killburn II

ลำโพง Marshall Killburn II

เริ่มต้นลำโพงมาแชล รุ่นแรกกันเลยนั้นก็คือ Killburn II เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker โดยมีดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด และมีสายหูหิ้วแบบหนัง ช่วยให้หยิบยกพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย ไม่ว่าจะแคมป์ปิ้ง หรือเดินทางท่องเที่ยว ก็นำมาใช้งานได้สะดวก เพราะมีการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตได้ตลอด มาพร้อมกำลังเสียงเบสแน่น มีมิติ ซึ่งกระจายเสียงในย่านความถี่ 45Hz-20,000Hz ส่งผลให้เสียงคมชัดทุกย่านเสียง และคุณสามารถปรับย่านเสียงต่างๆด้วยปุ่มหมุนบนตัวเครื่อง อีกทั้งมีคุณสมบัติป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX2 รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Killburn II
น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด และเป็นลำโพงชนิดพกพา มาพร้อมสายหูหิ้วแบบหนัง ช่วยให้หยิบพกพาสะดวก มีความทนทาน
  • สามารถใช้งานไร้สาย ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 และแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 10 ชั่วโมง
  • ย่านความถี่ 45Hz-20,000Hz ทำให้เสียงเบสมีความหนักแน่น นุ่มลึก และปรับโทนเสียงได้ง่ายๆบนลำโพง
  • มีระบบ Multi-Host เชื่อมต่อพร้อมกันได้มากกว่า 1 อุปกรณ์

จุดควรพิจารณา:
  • คุณสมบัติป้องกันมาตรฐาน IPX2 ถือว่ามีความสามารถในการป้องกันน้ำน้อย เพราะป้องกันได้เพียงหยดน้ำเข้าไปตัวลำโพงเท่านั้น
  • หากใช้งานลำโพงครั้งแรก จำเป็นต้องทำการเบิร์นเสียงลำโพงก่อน เพื่อทำให้เสียงนุ่มและมีมิติมากขึ้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

2.       ลำโพง Marshall Emberton II

ลำโพง Marshall Emberton II

ต่อมารุ่น Emberton II เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker มีดีไซน์ทันสมัย สวยงามตาม และมีน้ำหนักเบาเพียง 700 กรัม ขนาดกะทัดรัด ทำให้เป็นลำโพงพกพาได้สะดวก นำไปใช้งานได้ทุกสถานที่ มาพร้อมขับกำลังเสียงในคลื่นความถี่ 60Hz-20,000Hz ทำให้เสียงมีมิติทุกย่านเสียง และแยกโทนเสียงได้ชัดเจน ซึ่งผ่านการปรับแต่งจากรุ่น Emberton I ด้านเสียงให้มีมิติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้รวดเร็วด้วย Bluetooth 5.0 และมีแบตเตอรี่ในการใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง เหมาะสำหรับนำไปฟังเพลง ดูภาพยนตร์ เพิ่มความสนุกและอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีระบบ Multi-Speaker สามารถนำลำโพงแบบเดียวกันมาเชื่อมต่อ และเพิ่มกำลังเสียงได้อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Emberton II
น้ำหนัก 700 กรัม
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เพราะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 700 กรัมเท่านั้น
  • อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่บ่อยครั้ง
  • มีระบบ Multi-Speaker นำลำโพงแบบเดียวกันมา Stack ช่วยเพิ่มกำลังเสียงได้
  • เสียงมีมิติทุกย่านเสียง และแยกโทนเสียงได้ชัดเจน

จุดควรพิจารณา:
  • เนื่องจากเป็นลำโพงขนาดเล็ก หากนำไปใช้งานกลางแจ้ง หรือห้องพื้นที่กว้าง ส่งผลให้ระดับเสียงไม่ดังเท่าที่ควร
  • มีรูปแบบเชื่อมต่อเพียงไร้สายเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

3.       ลำโพง Marshall Acton II

ลำโพง Marshall Acton II

ลำโพงรุ่น Acton II เป็นชนิดลำโพง Multi-Speaker โดยมีดีไซน์ทันสมัย ขนาดกำลังดี ซึ่งมีน้ำหนัก 2.85 กิโลกรัม มาพร้อมกำลังขับเสียงในคลื่นความถี่ 50Hz-20,000Hz ส่งพลังเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง ขณะเดียวกันสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้หลายชนิด เช่น สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค และแท็บเล็ต เป็นต้น นอกจากนี้ด้านบนตัวลำโพงมีปุ่มควบคุมโทนเสียงทั้งเสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม ช่วยให้เสียงมีคุณภาพยอดเยี่ยมสำหรับการฟังเพลงและดูภาพยนต์

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Acton II
น้ำหนัก 2.85 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกำลังดี เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป และนำพกพาไปใช้งานได้ทุกสถานที่
  • สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบมีสายและไร้สาย โดยเชื่อมต่อ5mm/Bluetooth 5.0
  • ลำโพงมีย่านความถี่ 50Hz-20,000Hz ส่งพลังเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง
  • รองรับการใช้งานได้หลายอุปกรณ์เช่น PC, Smartphone, Tablet

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่มีสายหูหิ้ว อาจทำให้การพกพาไม่สะดวก
  • ไม่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

4.       ลำโพง Marshall Tufton

ลำโพง Marshall Tufton

ลำโพงมาแชล รุ่น Tufton เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker/Home Speaker ดีไซน์ออกแบบทันสมัย สวยงามคลาสสิกตามสไตล์มาแชล ซึ่งมีรูปทรงแบบลำโพงแนวตั้ง มีสายหูหิ้วแบบหนัง ให้ความทนทาน แข็งแรง ช่วยให้หยิบยก เคลื่อนย้ายลำโพงได้ง่าย หรืออาจนำไปฟังเพลงนอกสถานที่ได้ แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักให้ดี นอกจากนี้มีตัวควบคุมแบบ Knob สามารถปรับระดับเสียง Bass, Treble และ Volume ได้ตามที่ต้องการ ทั้งนี้สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้รวดเร็ว อีกทั้งมีมาตรฐานป้องกันน้ำ IPX2 ป้องกันหยดน้ำหรือละอองน้ำเข้าลำโพงได้

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Tufton
น้ำหนัก 4.9 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker ดีไซน์ทันสมัย มีรูปทรงแบบแนวตั้ง มาพร้อมสายหูหิ้ว ช่วยให้หยิบยก เคลื่อนย้ายได้ง่าย
  • ปุ่มควบคุมแบบ Knob ปรับระดับเสียงได้ตามที่ต้องการทั้ง Bass, Treble และ Volume
  • เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายด้วยการเชื่อมต่อ AUX/Bluetooth
  • มีคุณสมบัติป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX2

จุดควรพิจารณา:
  • ลำโพงมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะถึง9 กิโลกรัม ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่าที่ควร
  • มีราคาสูง แต่ประสิทธิภาพที่ได้รับคุ้มค่าอย่างมาก

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

5.       ลำโพง Marshall Emberton I

ลำโพง Marshall Emberton I

ลำโพงมาแชล รุ่น Emberton I เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker โดยมีดีไซน์สุดคลาสสิกตามสไตล์มาแชล ให้ความสวยงาม ทันสมัย และน้ำหนักเบาเพียง 700 กรัม สามารถพกพาได้ง่าย มาพร้อมย่านความถี่ของเสียง 60Hz-20,000Hz ส่งพลังเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง เหมาะสำหรับพกพาไปฟังเพลงนอกสถานที่ หรือสร้างความสนุกด้วยเสียงเพลง และดูภาพยนตร์กับกลุ่มเพื่อนๆได้ นอกจากนี้สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วยระบบ Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่อได้รวดเร็ว และมีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Embton I
น้ำหนัก 700 กรัม
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์คลาสสิก สวยงาม และมีน้ำหนักเบา 700 กรัม พกพาสะดวก นำไปใช้งานฟังเพลง ดูหนังกับกลุ่มเพื่อนได้ง่ายๆ
  • ความถี่ของเสียง 60Hz-20,000Hz ช่วยส่งพลังเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง
  • ระบบ Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่อไร้สายได้รวดเร็ว
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง

จุดควรพิจารณา:
  • ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มค่อนข้างนานถึง 3 ชั่วโมง
  • มีรูปแบบเชื่อมต่อเพียงไร้สายเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

6.       ลำโพง Marshall Stanmore II

ลำโพง Marshall Stanmore II

สำหรับลำโพงมาแชล รุ่น Stanmore II เป็นชนิด Home Speaker มีดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับใช้ฟังเพลง ดูหนังภายในห้องนั่งเล่น หรือห้องคอมฯ ซึ่งเมื่อทำการ Burn-in ลำโพงจะมีเสียงเบสหนักแน่น และสามารถแยกโทนเสียงได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีความถี่ 50Hz-20,000Hz ทำให้ส่งสัญญาณเสียงได้มีประสิทธิภาพ เสียงคมชัด นอกจากนี้รองรับการเชื่อมต่อด้วย AUX/Bluetooth และแอมป์กีต้าร์ อีกทั้งมีปุ่มควบคุมอย่าง Volume, Bass, Treble และค่าเสียงดั้งเดิมจากโรงงาน เป็นต้น สามารถปรับเสียงได้ตามที่ต้องการกับสไตล์ของคุณ

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Stanmore II
น้ำหนัก 4.65 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ลำโพงมาแชล รุ่น Stanmore II เป็นชนิด Home Speaker มีดีไซน์สวยงาม โดยตัวเครื่องใช้ Model ที่มีความคลาสสิก ทันสมัย
  • เพียงทำการ Burn-in ลำโพง ทำให้เสียงเบสนุ่มขึ้น และหนักแน่น พร้อมแยกโทนเสียงได้ชัดเจน
  • มีปุ่มควบคุมครบครันอย่าง Volume, Bass, Treble และค่าเสียงดั้งเดิมจากโรงงาน
  • มีระบบ Multi-Host Functionality เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • เป็นลำโพงแบบ Home Speaker ไม่เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
  • ไม่ระบุเรื่องคุณสมบัติป้องกันน้ำ ต้องระมัดระวังในการใช้งาน

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

7.       ลำโพง Marshall Stockwell II

ลำโพง Marshall Stockwell II

ลำโพงมาแชล รุ่น Stockwell II เป็นชนิด Portable Speaker โดยมีดีไซน์ล้ำสมัย ขนาดกะทัดรัด เสมือนกระเป๋าสะพายข้าง พร้อมมีสายสะพานหรือหูหิ้วแบบหนัง ทำให้รองรับน้ำหนักลำโพงได้ดี เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ มาพร้อมกับย่านความถี่ 60Hz-20,000Hz ทำให้ขับกำลังเสียงได้มีคุณภาพ ทั้งเสียงเบส เสียงแหลมค่อนข้างชัดเจน และแยกโทนเสียงได้ตามคลื่นความถี่ด้วย นอกจากนี้สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 รองรับการใช้งานมือถือและโน้ตบุ๊ค รวมไปถึงนำไปใช้กับสมาร์ททีวีได้อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Stockwell II
น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ล้ำสมัย ขนาดกะทัดรัด เสมือนกระเป๋าสะพายข้าง และเป็นลำโพง Portable Speaker มีสายหูหิ้วแบบหนัง พกพาได้ง่าย
  • ขับกำลังเสียงค่อนข้างดี และสามารถปรับแต่งโทนเสียงได้ตามที่ต้องการ ผ่านตัวควบคุมบนลำโพง
  • สามารถเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 เชื่อมได้ไกลในระยะ 10 เมตร
  • มีคุณสมบัติป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4

จุดควรพิจารณา:
  • อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ซึ่งใช้ได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม
  • ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มค่อนข้างนานถึง 5 ชั่วโมง

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

8.       ลำโพง Marshall Acton III

ลำโพงมาแชล รุ่น Acton III เป็นชนิดลำโพง Multi-Speaker โดยมีดีไซน์ทันสมัย ใช้วัสดุ Recycled Non-PVC 100% และออกแบบมาให้มีความหรูหรา ตามเอกลักษณ์ของมาแชล รวมไปถึงออกแบบขยายความกว้าง เพื่อให้เสียงกระจายได้มากขึ้นกว่ารุ่น Acton II มาพร้อมระบบเชื่อมต่อแบบใหม่ โดยการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบ Bluetooth 5.2 และฟังก์ชันใหม่ OTA ทำให้เชื่อมต่อในระยะไกลเกิน 10 เมตร และมาพร้อมระบบยืนยันการเชื่อมต่อ อีกทั้งมีปุ่มหมุนปรับระดับ และแต่งโทนเสียงได้ตามที่ต้องการง่ายๆบนตัวลำโพง

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Acton III
น้ำหนัก 2.85 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ทันสมัย ใช้วัสดุรีไซเคิล ปราศจาก PVC 100% ดูหรูหรา น้ำหนักเบาลงจากรุ่นก่อน และนำพกพาไปใช้งานได้ทุกสถานที่
  • ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 เป็นระบบเชื่อมต่อแบบใหม่ เชื่อมต่อรวดเร็วและใช้งานได้ไกลเกิน 10 เมตร
  • สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบมีสายและไร้สาย โดยเชื่อมต่อ5mm/Bluetooth 5.0
  • ลำโพงมีย่านความถี่ 45Hz-20,000Hz ส่งพลังเสียงได้คมชัดทุกย่านเสียง

จุดควรพิจารณา:
  • เนื่องจากเป็นรุ่นใหม่ของ Acton II ทำให้มีราคาค่อนข้างแพง
  • ไม่สามารถป้องกันน้ำหรือหยดน้ำเข้าลำโพงได้

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

9.       ลำโพง Marshall Woburn II

ลำโพง Marshall Woburn II

ลำโพงมาแชลอันดับที่ 9 รุ่น Woburn II มีดีไซน์เหมือนกับรุ่น Woburn I เพียงแต่รุ่นนี้ได้ทำการอัปเกรดประสิทธิภาพในด้านของเสียง โดยมีเสียงเบสที่หนักแน่น กระหึ่ม ทำให้ดูหนังได้สนุก เร้าใจ และฟังเพลงเพลิดเพลิน ซึ่งสามารถแยกโทนเสียงได้ชัดเจน รวมไปถึงแยกเสียงเครื่องดนตรีได้เช่นกัน นอกจากนี้มีระบบ Multi-Host เชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Bluetooth 5.0 และ APTX ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน มาพร้อมระบบ Customize Your Sound ปรับแต่งโทนเสียงผ่าน Application หรือปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องได้อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Woburn II
น้ำหนัก 7.45 กิโลกรัม
การเชื่อมต่อ AUX3.5mm/HDMI/Bluetooth 5.0
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ทันสมัย คงเป็นเอกลักษณ์สไตล์มาแชล ซึ่งเป็นลำโพงที่เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ ทำให้เสียงกระหึ่ม เร้าใจแน่นอน
  • สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยใช้ 5mm/HDMI/Bluetooth 5.0
  • มีปุ่มหมุนควบคุมบนตัวเครื่อง และสามารถใช้ Application ในการปรับโทนเสียงได้
  • ขับกำลังเสียงเบสได้หนักแน่นด้วยย่านความถี่ 35Hz-20,000Hz

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ และมีน้ำหนักเยอะ ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่าที่ควร
  • หากเทียบกับรุ่นอื่นๆลำโพงตัวนี้มีราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

10.   ลำโพง Marshall Willen

ลำโพง Marshall Willen

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงอันดับสุดท้ายนั้นก็คือ รุ่น Willen เป็นลำโพงชนิด Portable Speaker ซึ่งเป็นลำโพงแบบใหม่ของมาแชล โดยมีขนาดเล็กเทียบเท่ากับกระเป๋าสตางค์ และมีดีไซน์ทันสมัย สวยงาม น้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย ในส่วนระบบเสียงมีคุณภาพดีเยี่ยม เสียงเบสหนักแน่น นอกจากนี้การควบคุมใช้ปุ่มเพียงปุ่มเดียว สามารถควบคุมแบบ Multidirectional (On/Off, Play/Pause, Volume Up/Down, Skip/Back) อีกทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 3 ชั่วโมง

ยี่ห้อ/รุ่น Marshall Willen
น้ำหนัก ไม่ระบุ
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1
ระยะเวลารับประกัน 1 ปี

จุดเด่น:
  • ดีไซน์ทันสมัย ขนาดเล็กกะทัดรัด เทียบเท่ากระเป๋าสตางค์ และเป็นชนิดลำโพงพกพา เหมาะสำหรับพกพานำไปใช้งาน
  • แม้จะมีขนาดเล็ก แต่คุณภาพเสียงเกินตัว เสียงเบสแน่น กระหึ่ม และเสียงคมชัดทุกย่านเสียง
  • ควบคุมการใช้งาน Multidirectional ได้ง่าย เพียงใช้ปุ่มควบคุมปุ่มเดียว
  • แบตเตอรี่ถึกทน ใช้งานได้นานถึง 15 ชั่วโมง

จุดควรพิจารณา:
  • ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มค่อนข้างนานถึง 3 ชั่วโมง
  • เชื่อมต่อได้เพียงอุปกรณ์เดียวเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

ลำโพง Marshall

ลำโพง Marshall มีกี่รูปแบบ?

ลำโพงที่เรานำเสนอมานั้นมีทั้ง Portable Speaker, Home Speaker และ Multi-Speaker แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? แต่ละรูปแบบมีวิธีการนำไปใช้งานแตกต่างกัน โดยเราจะบอกคุณให้ทราบพร้อมๆกันดังต่อไปนี้

·       Portable Speaker

Portable Speaker คือ ลำโพงชนิดพกพา เหมาะสำหรับนำไปใช้งานนอกสถานที่ เช่น แคมป์ปิ้ง เดินทางท่องเที่ยวไปใช้งานภายในห้องโรงแรม เป็นต้น ซึ่งมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และมักจะมีระบบเชื่อมต่อไร้สาย (AUX3.5mm/Bluetooth) แต่ทว่าคุณภาพของเสียงจะต่ำกว่ารูปแบบอื่นๆ

·       Home Speaker

Home Speaker คือ ลำโพงที่มีการเชื่อมต่อรูปแบบเดียวนั้นก็คือ AUX3.5mm ซึ่งเหมาะสำหรับใช้งานภายในบ้านหรือภายในอาคารเท่านั้น โดยมีคุณภาพเสียงคมชัด หนักแน่น และทรงพลัง สามารถแยกโทนเสียงได้ชัดเจน และนำไปใช้งานภายในห้องพื้นที่กว้างได้ดี อีกทั้งเสียงมีคุณภาพดีที่สุดอีกด้วย

·       Multi-Speaker

Multi-Speaker คือ ลำโพงที่มีรูปแบบการเชื่อมต่อหลากหลาย และเชื่อมต่อพร้อมกันได้หลายเครื่อง ซึ่งมักจะมีรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ AUX/Bluetooth ทำให้ใช้งานได้ทั้งไร้สายและมีสาย แต่จะมีน้ำหนักเครื่องค่อนข้างเยอะ ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่าที่ควร

Marshall Stanmore 1 Vs 2 ต่างกันยังไง

หากพูดถึงความแตกต่างระหว่าง Stanmore I Vs Stanmore II คุณอาจจะสงสัยว่าต่างกันยังไง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณได้รู้พร้อมๆกัน จริงๆแล้ว Stanmore I หรือ Stanmore II มีลักษณะดีไซน์เหมือนกัน แต่ต่างกันในระบบของเสียงอย่างชัดเจน โดย Stanmore I จะมีโทนเสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลมอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่งทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่า ‘เสียงใส’ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการ ‘เสียงหนักแน่น’ คมชัด และแยกโทนเสียงได้ชัดเจน ต้องจัด Stanmore II เพราะเสียงเบสค่อนข้างชัดเจน ตามด้วยโทนเสียงกลางที่คอยรองรับเสียงเบสให้มีมิติ และได้ยินเสียงแหลมในระดับที่พอดี ได้ยินเสียงนักร้องชัดเจน พร้อมแยกเสียงเครื่องดนตรีได้อีกด้วย

วิธีเลือกซื้อลำโพง Marshall  รุ่นไหนดี ให้เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด

1.       พิจารณาขนาดพื้นที่ในการใช้งาน

เนื่องจากลำโพงมีขนาดเล็ก กลางใหญ่ แต่หากเป็นลำโพงมาแชลจะมีขนาดให้เลือกทั้งขนาดเล็ก สำหรับพกพา หรือขนาดที่ใช้สำหรับภายในอาคารเท่านั้น ซึ่งคุณจำเป็นต้องคำนึงถึงพื้นที่ในการใช้งานลำโพง เพราะลำโพงแต่ละขนาดจะมีผลและคุณภาพของเสียงแตกต่างกัน เช่น ลำโพงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับห้องพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสียงให้ได้ยินชัดเจน หรือลำโพงขนาดเล็ก เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ โดยเน้นใช้ในกลุ่มพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น แคมป์ปิ้ง ปาร์ตี้บาร์บีคิว เป็นต้น

2.       น้ำหนักของลำโพง

น้ำหนักของลำโพงมาแชลเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะน้ำหนักจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้าย หากน้ำหนักเยอะจนเกินไป อาจทำให้การเคลื่อนย้ายไม่สะดวก เช่น ลำโพงรุ่นที่มีน้ำหนัก 7.85 กิโลกรัม จะยกได้ยาก จำเป็นต้องใช้ 2 มือโอบกอดหรืออุ้มขึ้น เสี่ยงเกิดทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และลำโพงเสี่ยงตกลงมาได้ เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกน้ำหนักของลำโพงที่ต้องการให้ดีเสียก่อน

3.       ย่านความถี่

สำหรับย่านความถี่จะส่งผลต่อความหนักแน่นของเสียง และโทนของเสียงที่ลำโพงขับออกมา โดยพื้นฐานลำโพงจะมีย่านความถี่ที่ 20Hz-20,000Hz ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่เหมาะสมในการขับเสียงออกมา เพื่อให้คนเราสามารถแยกแยะโทนเสียงได้ชัดเจน ไม่มีเสียงแหลมหรือต่ำจนเกินไป ทำให้คุณสามารถใช้ลำโพงได้เต็มประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าเพิ่มอรรถรสในการรับฟังสิ่งต่างๆได้อีกด้วย

4.       รูปแบบการเชื่อมต่อ

ลำโพงมาแชลมีรูปแบบการเชื่อมต่อหลักๆแล้วจะเป็น AUX/Bluetooth ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งเราขอแนะนำคุณควรเลือกการเชื่อมต่อดังกล่าว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ทั้งนี้การเชื่อมต่อไร้สาย จะมีระบบแบตเตอรี่เพิ่มเข้ามา ซึ่งมาแชลมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเกิน 15 ชั่วโมง อีกทั้งมีระบบสลับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้ และใช้งานได้ในระยะไกลเกิน 10 เมตร เพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมไม่น้อยเลยทีเดียว

บทสรุปสำหรับเลือกซื้อ ลำโพง Marshall  รุ่นไหนดี ฟังลื่น สบายหู

บทสรุปเลือกซื้อ ลำโพง Marshall รุ่นไหนดี เราขอแนะนำเลือกซื้อรุ่น Killburn II เพราะเป็นลำโพงชนิดพกพา (Portable Speaker) ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม ขนาดกะทัดรัด และมีสายหูหิ้วแบบหนัง ช่วยให้หยิบยกพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตได้ มาพร้อมกำลังเสียงเบสแน่น มีมิติ ให้เสียงคมชัดทุกย่านเสียง เรียกได้ว่าฟังลื่น สบายหู คุ้มค่าแก่การซื้อมาใช้งานอย่างแน่นอน

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

ปวินญา

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

TopReviewThailand : รีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าขายดี
Logo
Enable registration in settings - general