รีวิว 10 อันดับ เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี กระจายเน็ตไว

ยุคปัจจุบันการใช้ ‘อินเทอร์เน็ต’ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องใช้ในการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ความบันเทิง สื่อสาร และต้องใช้ในการทำงานหรือเรียนออนไลน์ ซึ่งความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตก็เป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากการใช้งานจำเป็นต้องมี Upload และ Download เพื่อส่งข้อมูลและรับข้อมูลให้รวดเร็ว ทันใจแก่ผู้ใช้งานมากที่สุด ทั้งนี้ในปัจจุบันนิยมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย หรือที่เรียกว่า ไวเลส (Wireless) และไวไฟ (Wi-Fi) สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้หลายชนิด เช่น คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, สมาร์ททีวี, แท็บเล็ต เป็นต้น นอกจากนี้ระบบไวไฟมีการกระจายสัญญาณ เพื่อทำให้อินเทอร์เน็ตมีความไวมากยิ่งขึ้น และเพิ่มระยะในการใช้งานได้ไกลยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะมีรีวิวแนะนำ 10 เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี ที่กระจายเน็ตได้ไว ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว มาติดตามพร้อมๆกันเลย

เราเตอร์ไวไฟ

10 อันดับ เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี กระจายเน็ตไว

1.  เราเตอร์ไวไฟ TP-LINK MR6400

เราเตอร์ไวไฟ TP-LINK MR6400

เริ่มต้นรีวิวเราเตอร์ไวไฟ TP-LINK MR6400 เป็นชนิดเราเตอร์ที่รองรับการใส่ซิมการ์ดมือถือ (Sim-Card) เพียงนำซิมการ์ดมือถือเสียบเข้าช่อง ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆให้ยุ่งยาก ซึ่งสามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi รูปแบบ 4G และรองรับการเข้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พร้อมกัน 32 เครื่อง โดยมีความเร็วการกระจายสูงสุด 300 Mbps มาพร้อมกับเสาสัญญาณอากาศ LTE ขั้นสูง แบบถอดได้ 2 ตัว ช่วยให้กระจายสัญญาณได้เสถียรและคงที่ นอกจากนี้รองรับการเชื่อมต่อด้วยสาย LAN เพื่อการเข้าถึงที่ยืดหยุ่น และได้รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยตรง อีกทั้งมีระยะเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร

ยี่ห้อ/รุ่น TP-LINK MR6400
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
ย่านความถี่ 2.4GHz
รองรับซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดทุกเครือข่าย

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ TP-LINK MR6400 เป็นชนิดใส่ซิมการ์ดได้ทุกเครือข่าย และสามารถเชื่อมต่อสาย LAN ทำให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
  • กระจายสัญญาณแบบ4Ghz ถือเป็นเราเตอร์ไวไฟ ส่งสัญญาณได้ไกลเกินระยะ 10 เมตร
  • มีเสาสัญญาณ LTE 2 ตัว ช่วยส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อได้ทั้งหมด 32 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ใช้ย่านความถี่ได้เพียง 4Ghz เท่านั้น ไม่รองรับสัญญาณย่านความถี่ 5.0Ghz ซึ่ง 5.0Ghz มีความเร็วอินเทอร์เน็ตมากกว่า 2.4Ghz
  • เนื่องจากเราเตอร์เป็นระบบใส่ซิมการ์ด ทำให้ไม่สามารถติดตั้งบนฝาผนังได้

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

2.  เราเตอร์ไวไฟ Mercusys AC12G

เราเตอร์ไวไฟ Mercusys AC12G

เราเตอร์ไวไฟ Mercusys AC12G เป็นชนิดเราเตอร์รับข้อมูลและกระจายสัญญาณ (Router Receiver) ซึ่งสามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ได้ 2 ย่านความถี่ คือ 2.4Ghz/5.0Ghz โดยมีความเร็วอินเทอร์เน็ต 300 Mbps ที่ย่านความถี่ 2.4Ghz และ 867 Mbps ที่ย่านความถี่ 5.0Ghz มาพร้อมกับเสาสัญญาณจำนวน 4 เสา ช่วยให้ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้เสถียรและมีความคงที่ นอกจากนี้ช่วยให้เชื่อมต่อได้ไกลขึ้นครอบคลุมทั่วพื้นที่ เช่น หากเราเตอร์อยู่ชั้น 1 สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์จากชั้น 3 ได้ เป็นต้น อีกทั้งรองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อเข้ากับเราเตอร์ไวไฟได้ทั้งหมด 64 เครื่อง

ยี่ห้อ/รุ่น Mercusys AC12G
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps-867 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz/5.0Ghz
รองรับซิมการ์ด ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ Mercusys AC12G เป็นตัวกระจายสัญญาณ สามารถติดตั้งบนฝาผนัง ช่วยลดพื้นที่ในการจัดวางได้มากยิ่งขึ้น
  • กระจายสัญญาณได้ 2 คลื่นความถี่ 4Ghz/5.0Ghz ทำให้รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล
  • มีความเร็วอินเตอร์เน็ตรวม 1,200 Mbps โดยความเร็ว 300 Mbps 2.4Ghz และ 867 Mbps 5.0Ghz
  • รองรับอุปกรณ์ในการเข้าเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด 64 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่รองรับระบบซิมการ์ด ทำให้ต้องมีเราเตอร์หลักที่ปล่อยสัญญาณมาให้ตัวรับ เพื่อกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่
  • ไม่มีช่องระบายความร้อน หากเครื่องร้อนจนเกินไป อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่คงที่

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

3.  เราเตอร์ไวไฟ Expose

เราเตอร์ไวไฟ Expose

เราเตอร์ไวไฟ Expose เป็นชนิดเราเตอร์ไวไฟใส่ซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดทุกเครือข่าย และสามารถกระจายสัญญาณได้ไกล ด้วยคลื่นความถี่ 2.4GHz โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในระยะไกลได้ถึง 10 เมตร ซึ่งจะเป็นการปล่อยสัญญานในรูปแบบ 4G/5G จึงต้องนำซิมการ์ดระบบ 4G/5G มาใช้งานถึงจะกระจายสัญญาณไวไฟได้ ทั้งนี้ซิมการ์ดกระจายความเร็วได้สูงสุด 150 Mbps นอกจากนี้ตัวเราเตอร์มีเสาสัญญาณ 2 เสา ช่วยกระจายสัญญาณได้ดียิ่งขึ้น และมีความเสถียร อีกทั้งรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 8 เครื่อง

ยี่ห้อ/รุ่น Expose
ความเร็วสูงสุด 50 Mbps/150 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz
รองรับซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดทุกเครือข่าย

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ Expose เป็นชนิดเราเตอร์ใส่ซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดทุกเครือข่าย
  • รองรับซิมการ์ดระบบ 5G ช่วยให้อินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงกว่า 4G
  • มีเสาสัญญาณจำนวน 2 เสา กระจายอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเสถียร
  • กระจายสัญญาณได้ไกลเกิน 10 เมตรด้วยคลื่นความถี่4Ghz

จุดควรพิจารณา:
  • ความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่สามารถปล่อยได้เพียง 150 Mbps เท่านั้น จัดว่าเป็นความร้อนค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • จำนวนในการรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ 8 เครื่อง ถือเป็นจำนวนน้อยมากถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

4.  เราเตอร์ไวไฟ AIS 4G Hi Speed HOME Wifi

เราเตอร์ไวไฟ AIS 4G Hi Speed HOME Wifi

เราเตอร์ไวไฟ AIS 4G Hi Speed HOME Wifi เป็นชนิดเราเตอร์ใส่ซิมการ์ด โดยสามารถใส่ซิมการ์ดแบบ 3G/4G ซึ่งรองรับการใส่ซิมการ์ดเครือข่าย AIS เท่านั้น สามารถกระจายความเร็วได้สูงสุดที่ 150 Mbps จัดเป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่ต้องติดตั้งเดินสายให้ยุ่งยาก พกพาสะดวก เหมาะกับสถานที่ต่างๆ ที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรูปแบบสาย(LAN) เข้าไปไม่ถึง เช่น หอพัก, อพาร์ทเมนต์ และบ้านได้เช่นกัน โดยเฉพาะบ้านที่มีจำนวนหลายๆชั้น ซึ่งตัวกระจายสัญญาณเราเตอร์ไวไฟ ช่วยให้ชั้นบนสูงสุดของบ้านเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเดินสายอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

ยี่ห้อ/รุ่น AIS 4G Hi Speed HOME Wifi
ความเร็วสูงสุด 150 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz
รองรับซิมการ์ด รองรับซิมการ์ด AIS เท่านั้น

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ AIS 4G Hi Speed HOME Wifi รองรับการใส่ซิมการ์ด สามารถกระจายความเร็วได้สูงสุดที่ 150 Mbps
  • มีความจุแบตเตอรี่ 2,000 mAh สามารถใช้งานไร้สาย พกพาสะดวก ไม่ต้องติดตั้งเดินสายให้ยุ่งยาก
  • สามารถกระจายสัญญาณในจุดที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ไม่ถึง เช่น หอพัก, บ้านชั้นสูงๆ เป็นต้น
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมพร้อมกันได้ทั้งหมด 32 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ความเร็วไม่เสถียรเท่าที่ควร เพราะเป็นระบบปล่อยสัญญาณเทคโนโลยีแบบเก่า โดยเฉพาะคลื่น 3G ให้ความเร็วเน็ตค่อนข้างช้า
  • รองรับซิมการ์ดเฉพาะเครือข่าย AIS เท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

5.  เราเตอร์ไวไฟ TP-Link TL-MR100

เราเตอร์ไวไฟ TP-Link TL-MR100

เราเตอร์ไวไฟ TP-Link TL-MR100 เป็นชนิดเราเตอร์ใส่ซิมการ์ด และทำการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ให้อุปกรณ์เชื่อมต่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ โดยมีความเร็วสูงสูด 300 Mbps และใช้คลื่นความถี่ 2.4Ghz ช่วยให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ระยะไกลถึง 10 เมตร มาพร้อมกับ Port เชื่อมต่อสาย LAN 1 ช่อง เหมาะสำหรับใช้บนโต๊ะคอมเชื่อมต่อกับ PC และใช้เราเตอร์ไวไฟปล่อยสัญญาณให้สมาร์ทโฟนได้ เพียงเสียบซิมการ์ดเท่านั้น นอกจากนี้มีเสาสัญญาณ 2 เสา ช่วยให้ส่งสัญญาณมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น อีกทั้งรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้พร้อมกันทั้งหมด 32 เครื่อง

ยี่ห้อ/รุ่น TP-Link TL-MR100
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz
รองรับซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดทุกเครือข่าย

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ TP-Link TL-MR100 รองรับการใส่ซิมการ์ดได้ทุกเครือข่าย และปล่อยสัญญาณไวไฟพร้อมความเร็วสูง 300 Mbps
  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งให้ยุ่งยาก เพียงเสียบซิมการ์ดก็พร้อมปล่อยสัญญาณไวไฟได้ทันที
  • สัญญาณความถี่4Ghz ช่วยให้ส่งสัญญาณได้ระยะไกลถึง 10 เมตร
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมพร้อมกันได้ทั้งหมด 32 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • เนื่องจากปล่อยสัญญาณคลื่นความถี่ 4GHz อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่ถึงตามที่ระบุไว้
  • ไม่มีช่องระบายความร้อน หากเครื่องร้อนจนเกินไป อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่คงที่

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

6. เราเตอร์ไวไฟ Xiaomi Router AX3200

เราเตอร์ไวไฟ Xiaomi Router AX3200

เราเตอร์ไวไฟ Xiaomi Router AX3200 เป็นเราเตอร์กระจายสัญญาณที่มีเสาสัญญาณจำนวน 6 เสา จึงทำให้กระจายสัญญาณได้เสถียร โดยรองรับความเร็วได้สูงสุด 3,200 Mbps จาก Package Internet ของแต่ละบ้าน ซึ่งสามารถกระจายความเร็วได้สูงสุด 1,000 Mbps ทั้งรูปแบบ Wi-Fi และ LAN นอกจากนี้รองรับระบบการเชื่อมต่อทั้ง iOS และ Android อีกทั้งมีระบบเทคโนโลยี Beamforming Directional Enchanced ช่วยให้ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าสู่อุปกรณ์โดยตรง และสามารถผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Xiaomi Router AX3200
ความเร็วสูงสุด 1,000 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz/5.0Ghz
รองรับซิมการ์ด ไม่รองรับ

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ Xiaomi Router AX3200 รองรับความเร็วได้สูงสุด 3,200 Mbps และสามารถกระจายความเร็วได้สูงสุด 1,000 Mbps
  • Beamforming Directional Enchanced ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าสู่อุปกรณ์โดยตรง
  • มีเสาสัญญาณจำนวน 6 เสา ทำให้กระจายสัญญาณได้เสถียร และเน็ตเร็วแรง
  • รองรับระบบการเชื่อมต่อทั้ง iOS และ Android

จุดควรพิจารณา:
  • มีเสาสัญญาณค่อนข้างเยอะ อาจทำให้ถูกสัญญาณจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆรบกวนได้ง่าย
  • ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด เน้นใช้งานในรูปแบบกระจายสัญญาณเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

7.  เราเตอร์ไวไฟ HUAWEI WIFI WS5200

เราเตอร์ไวไฟ HUAWEI WIFI WS5200

เราเตอร์ไวไฟ HUAWEI WIFI WS5200 เป็นเราเตอร์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีเสาสัญญาณขนาดใหญ่จำนวน 4 เสา จึงทำให้กระจายสัญญาณได้เสถียร โดยคลื่นความถี่ 2.4Ghz จะปล่อยความเร็วได้ที่ 400 Mbps ส่วน 5.0GHz จะปล่อยความเร็วได้ที่ 867 Mbps ช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อได้ทั้งในระยะใกล้และระยะไกล นอกจากนี้สามารถควบคุมการทำงาน และตั้งค่าเราเตอร์ผ่านสมาร์ทโฟน เพียงดาวน์โหลด Application Huawei AI Life อีกทั้งสามารถตั้งค่ารหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัยของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ยี่ห้อ/รุ่น HUAWEI WIFI WS5200
ความเร็วสูงสุด 400 Mbps-867 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz/5.0Ghz
รองรับซิมการ์ด ไม่รองรับ

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ HUAWEI WIFI WS5200 กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้เสถียร เพราะมีเสาสัญญาณขนาดใหญ่จำนวน 4 เสา
  • ปล่อยความถี่ได้ 2 รูปแบบ คือ 2.4Ghz/0Ghz ช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อได้ทั้งระยะไกลและใกล้
  • ควบคุมการทำงาน และตั้งค่าเราเตอร์ผ่านสมาร์ทโฟน ด้วย Application Huawei AI Life
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อพร้อมกัน 64 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่มีช่องระบายความร้อน หากเครื่องร้อนจนเกินไป อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่คงที่
  • ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด เน้นใช้งานในรูปแบบกระจายสัญญาณเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

8. เราเตอร์ไวไฟ Redmi AC2100

เราเตอร์ไวไฟ Redmi AC2100

เราเตอร์ไวไฟ Redmi AC2100 เป็นเราเตอร์ชนิดกระจายสัญญาณ โดยปล่อยอินเทอร์เน็ตผ่านคลื่นความถี่ 2.4Ghz จะปล่อยความเร็วได้ที่ 300 Mbps ส่วน 5.0GHz จะปล่อยความเร็วได้ที่ 1,733 Mbps ซึ่งมีเทคโนโลยี MU-MIMO เพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็นสองเท่า เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้เร็วยิ่งขึ้น บอกลาอาการสัญญาณกระตุก ขาดๆหายๆ และรองรับเทคโนโลยี Beamforming เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณให้แข็งแรงขึ้น โดยสัญญาณเข้าเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน อีกทั้งเชื่อมต่อผ่าน Application Xiaomi Wi-Fi สามารถควบคุมการทำงานของเราเตอร์ และสามารถตั้งค่าความปลอดภัย หรือรหัสผ่านได้อีกด้วย

ยี่ห้อ/รุ่น Redmi AC2100
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps- 1,700 Mbps
ย่านความถี่ 2.4GHz/5.0GHz
รองรับซิมการ์ด ไม่รองรับ

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ Redmi AC2100 มีเสาสัญญาณจำนวน 6 เสา ช่วยให้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ 6 ทิศทาง และมีความเสถียรอย่างมาก
  • ปล่อยความถี่ได้ 2 รูปแบบ คือ 2.4Ghz/0Ghz ช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อได้ทั้งระยะไกลและใกล้
  • มีเทคโนโลยี MU-MIMO เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้เร็ว บอกลาอาการสัญญาณกระตุก ขาดๆหายๆ
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อพร้อมกัน 128 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่มีช่องระบายความร้อน หากเครื่องร้อนจนเกินไป อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่คงที่
  • ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด เน้นใช้งานในรูปแบบกระจายสัญญาณเท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

9.  เราเตอร์ไวไฟ Tenda AC8 AC1200

เราเตอร์ไวไฟ Tenda AC8 AC1200

รีวิวแนะนำอันดับรองสุดท้ายกับเราเตอร์ไวไฟ Tenda AC8 AC1200 มีเสาสัญญาณจำนวน 4 เสา ช่วยให้ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้คงที่ และอุปกรณ์เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถปล่อยคลื่นความถี่ได้ 2 แบบ คือ 2.4GHz/5.0GHz โดยความถี่ 2.4Ghz จะมีความเร็วคงที่อยู่ที่ 300 Mbps และความถี่ 5.0Ghz จะมีความเร็วคงที่อยู่ที่ 867 Mbps ส่งผลให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล มีสัญญาณครอบคลุม เข้าถึงได้ทุกที่ อีกทั้งมี Port การเชื่อมต่อสาย LAN จำนวน 3 ช่อง เหมาะสำหรับนำไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับความเร็วอินเทอร์เน็ตแบบเต็มกำลัง ไม่มีสะดุด

ยี่ห้อ/รุ่น Tenda AC8 AC1200
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps-867 Mbps
ย่านความถี่ 2.4GHz/5.0GHz
รองรับซิมการ์ด  

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ Tenda AC8 AC1200 ปล่อยคลื่นความถี่ได้ 2 แบบ คือ 2.4GHz/0GHz มีความเร็ว 300 Mbps-867 Mbps
  • มี Port การเชื่อมต่อสาย LAN จำนวน 3 ช่อง เหมาะสำหรับนำไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
  • เสาสัญญาณจำนวน 4 เสา ช่วยให้ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้คงที่
  • รองรับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อพร้อมกัน 35 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด เน้นใช้งานในรูปแบบกระจายสัญญาณให้กับอุปกรณ์อื่นๆเท่านั้น เพื่อรองรับการเชื่อมต่อในระยะไกลนั่นเอง
  • มีความเร็วอินเทอร์เน็ตค่อนข้างช้า เพราะคลื่นความถี่ 0 ในปัจจุบันมักจะเกิน 1,000 Mbps

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Shopee

10.  เราเตอร์ไวไฟ True Wireless Broadband Plus T3 R520A

เราเตอร์ไวไฟ True Wireless Broadband Plus T3 R520A

สุดท้ายมาถึงรีวิวแนะนำเราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี กับ True Wireless Broadband Plus T3 R520A เป็นชนิดเราเตอร์ใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับเฉพาะเครือข่าย True Move เท่านั้น โดยมีความเร็วสูงสุด 300 Mbps ทั้งนี้ความเร็วของอินเทอร์เน็ตขึ้นอยู่กับ Package ที่คุณเลือกซื้อกับทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มาพร้อมกับเสาสัญญาณจำนวน 2 เสา ช่วยให้การกระจายสัญญาณมีความเสถียรขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้รองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้พร้อมกันสูงสุด 32 เครื่อง อีกทั้งสามารถปล่อยสัญญาณได้ 2 คลื่นความถี่ คือ 2.4Ghz/5.0Ghz

ยี่ห้อ/รุ่น True Wireless Broadband Plus T3 R520A
ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
ย่านความถี่ 2.4Ghz/5.0Ghz
รองรับซิมการ์ด รองรับซิมการ์ด True Move เท่านั้น

จุดเด่น:
  • เราเตอร์ไวไฟ True Wireless T3 R520A เป็นชนิดเราเตอร์ใส่ซิมการ์ด ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับซิมการ์ดที่คุณเลือกซื้อมา
  • มีเสาสัญญาณจำนวน 2 เสา ช่วยให้กระจายสัญญาณมีความเสถียรมากขึ้น
  • มีความเร็วอินเทอร์เน็ตค่อนข้างคงที่ โดยมีความเร็วสูงสุด 300 Mbps
  • รองรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ถึง 32 เครื่อง

จุดควรพิจารณา:
  • เสาสัญญาณเพียง 2 เสา อาจทำให้กระจายสัญญาณไม่มีความเสถียรเท่าที่ควร
  • รองรับซิมการ์ดเฉพาะเครือข่าย True Move เท่านั้น

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

วิธีเลือกซื้อ เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

1.  คุณสมบัติรองรับย่านความถี่

ในปัจจุบันคลื่นความถี่ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต จะมีอยู่ 2 คลื่นด้วยกัน คือ 2.4Ghz และ 5.0Ghz ซึ่ง 2.4Ghz จะมีช่องสัญญาณค่อนข้างแคบ ทำให้นำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อกับเราเตอร์ไวไฟได้ไกลสุดในระยะ 10 เมตร ส่วน 5.0Ghz ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ค่อนข้างเร็วที่สุด ใช้งานสะดวก แต่การเชื่อมต่อค่อนข้างใกล้ในระยะ 2.5-5.0 เมตรเท่านั้น

2.  เสากระจายสัญญาณ

สำหรับเราเตอร์ไวไฟ การมีเสากระจายสัญญาณถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้คุณเข้าเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็ว และมีความเสถียร ไม่เกิดอาการกระตุก หรือสัญญาณขาดๆหายๆไป นอกจากนี้เสาสัญญาณจะช่วยให้สัญญาณผ่านสิ่งกีดขวางได้ง่าย เช่น กำแพงบ้าน, ประตู เป็นต้น

3.  ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล

สำหรับความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล ขึ้นอยู่กับรุ่นของเราเตอร์ไวไฟชนิดนั้นๆ โดยหากเราเตอร์เป็นรูปแบบใส่ซิมการ์ด ความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะขึ้นอยู่กับเครือข่ายซิมการ์ด รวมไปถึงราคาแพ็คเก็จต่างๆ และช่วยส่งต่อ Traffic ของเครือข่ายกับอุปกรณ์ ทำให้เชื่อมต่อได้ง่าย และมีความรวดเร็ว

4.  มาตรฐานของ Wi-Fi

แน่นอนว่ามาตรฐาน Wi-Fi มีตัวย่อภาษาอังกฤษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น a, b, c, ac เป็นต้น โดยในปัจจุบันมาตรฐานที่ได้รับความนิยมคือ AC ซึ่งหมายถึงความสามารถหรือคุณสมบัติในการโอนถ่ายข้อมูล และความสามารถในการรับข้อมูลในเวลาเดียวกัน เพื่อรองรับการเข้าถึงอุปกรณ์ได้หลากหลายเครื่องมากยิ่งขึ้น

บทสรุปสำหรับเลือกซื้อ เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี กระจายเน็ตไว

สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ เราเตอร์ไวไฟ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำเราเตอร์ไวไฟ TP-LINK MR6400 เพราะมีความเร็วการกระจายสูงสุด 300 Mbps รองรับการใส่ซิมการ์ดมือถือทุกเครือข่าย (Sim-Card) เพียงนำซิมการ์ดมือถือเสียบเข้าช่อง ก็พร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาซื้อเราเตอร์ไวไฟใส่ซิม ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆให้ยุ่งยาก ซึ่งรองรับการเข้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พร้อมกัน 32 เครื่อง มาพร้อมเสาสัญญาณจำนวน 2 เสา ช่วยให้กระจายเน็ตได้เร็ว มีความเสถียร ทั้งนี้ความเร็วขึ้นอยู่กับเครือข่ายของซิมการ์ดนั้นๆ ถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาไวเลส เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี มั่นใจได้เลยว่า TP-LINK MR6400 ตอบโจทย์สำหรับคุณอย่างแน่นอน ทั้งกระจายสัญญาณได้ไกล และเน็ตเร็วอีกด้วย

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่Lazada

 

ปวินญา

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

TopReviewThailand : รีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าขายดี
Logo
Enable registration in settings - general