หลักการวิ่ง! ลงเท้ายังไง ให้เหมาะกับการวิ่งออกกำลังกาย

“การวิ่ง คือการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติและง่ายที่สุด ไม่ต้องมีการฝึกซ้อมหรือเรียนรู้อะไรมากมาย เพียงแค่รองรับลำตัว และขาที่ต้องการวิ่ง คุณก็สามารถเริ่มต้นได้เลย” การวิ่งออกกำลังกายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเผาผลาญพลังงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบหัวใจและปอด ลดความเครียด และเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน วิ่งออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องทำแบบเหนื่อยๆ หรือแข็งขัน คุณสามารถเริ่มต้นที่ระยะทางที่สั้นๆ เช่น 15-20 นาที และเพิ่มระยะทางเรื่อยๆ ตามความสะดวกของคุณ วิ่งออกกำลังกายยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะสังเกตุสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวคุณ เช่น การชื่นชมธรรมชาติ หรือการให้ความสนใจในการฟังเพลงหรือหนังสือเสียง ที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มต้น! ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว การวิ่งออกกำลังกายเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความสุขและการพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของคุณและการวิ่งมีหลายหลายแบบการวิ่งที่ต้องและถูกท่าทำให้เราปลอดภัยได้ดังนี้

การวิ่ง

ลงเท้ายังไง ให้เหมาะกับการวิ่งแต่ละประเภท

  1. วิ่งสำหรับการฝึกซ้อมหรือยาวๆ (Long Distance Running)
  • การลงเท้าที่เป็นเทคนิคเมียวก์ (Midfoot Strike Technique): พยายามที่จะลงเท้ากลางเท้า โดยมองหาวิธีที่จะทำให้เท้าหลุดออกจากพื้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกที่เท้าและข้อเท้าได้ เหมาะสำหรับวิ่งระยะไกลเนื่องจากช่วยให้ลำตัวไม่รู้สึกหนักหรือเมื่องแข็งมากนัก
  1. วิ่งแบบรัวหรือสปริ้น (Sprinting)
  • การลงเท้าด้วยส้นเท้า (Forefoot Strike Technique): พยายามลงเท้าด้วยส้นเท้าก่อน เพื่อให้ความเร็วสูงขึ้น มันช่วยให้คุณสามารถผลักตัวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  1. วิ่งแบบเร็วต่อเนื่อง (Interval Running)
  • ผสมการลงเท้า (Mixed Foot Strikes): ในการวิ่งแบบมีการเปลี่ยนระหว่างการวิ่งเร็วและการวิ่งช้า การลงเท้าด้วยส้นเท้า (Forefoot Strike) สามารถช่วยให้คุณมีความเร็วได้ แต่ในการวิ่งช่วงที่หมุนเงินหรือพัก การลงเท้ากลางเท้า (Midfoot Strike) อาจจะเหมาะสมกว่า

การวิ่ง

การวิ่งควรเริ่มต้นทำไง?

  1. ความพร้อมก่อนการวิ่ง: ระงับร่างกายก่อนการวิ่งเพื่อให้ได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุด ควรทำการอบรมและยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดความเครียดและป้องกันบาดเจ็บ
  2. เริ่มต้นอย่างช้าๆ: แบ่งการวิ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะเพิ่มระยะทางและเวลาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัว
  3. รักษาการหายใจที่เหมาะสม: หายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกหากเพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ
  4. เสริมแรงกายและส่วนล่าง: สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น, การเพิ่มระยะทางและความเร็วไม่ควรเป็นคำสั่งหลัก ควรให้เวลากับร่างกายให้ปรับตัว
  5. การสำรวจพื้นที่และเส้นทาง: เลือกเส้นทางที่เหมาะสมและปลอดภัย โดยไม่มีการขับขี่รถหรือคนเดินเดินเยอะ และต้องรู้จักเส้นทางเพื่อป้องกันการสูญหาย

การวิ่ง

อุปกรณ์การวิ่งออกกำลังกาย

  1. คู่รองเท้าวิ่งที่เหมาะสม: การเลือกคู่รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการวิ่งมีความสำคัญ เพราะคู่รองเท้าที่เหมาะสมจะช่วยลดการบาดเจ็บและปรับสมดุลให้กับร่างกายขณะวิ่ง
  2. เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ: เสื้อผ้าที่มีส่วนประกอบที่ช่วยระบายอากาศและระบายความชื้นจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายและแห้งในระหว่างการวิ่ง
  3. นาฬิกาหรืออุปกรณ์ติดตามการวิ่ง: นาฬิกาหรืออุปกรณ์ติดตามการวิ่งช่วยให้คุณสามารถติดตามระยะทางที่วิ่งได้ บางทียังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ หรือการวัดการเผาผลาญพลังงาน
  4. หูฟังหรือเพลงเพื่อการมีแรงจูงใจ: เพลงสามารถช่วยให้คุณรักษาอารมณ์และสนุกไปกับการวิ่ง สร้างแรงจูงใจในการรักษาความตั้งใจ
  5. ผ้าเช็ดเหงื่อหรือถุงออกกำลังกาย: มีผ้าเช็ดเหงื่อหรือถุงออกกำลังกายสำรองไว้ เพื่อล้างเหงื่อหลังจากการวิ่งเพื่อรักษาความสะอาดและความสะดวก
  6. คาร์ดิโอเพลทฟอร์ม (Cardio Playlist): ถ้าคุณชอบฟังเพลงขณะวิ่ง คาร์ดิโอเพลทฟอร์มที่มีเพลงที่คุณชื่นชอบจะช่วยเพิ่มความสนุกและแรงจูงใจในการออกกำลังกาย

การวิ่ง

สรุป

การวิ่งออกกำลังกายมีประโยชน์มากมาย เช่น เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย, ลดน้ำหนัก, สร้างแรงจูงใจและความสดชื่น และลดความเครียด อย่าลืมทำความรู้จักกับร่างกายของคุณและสัมผัสความสนุกในการวิ่งการวิ่งออกกำลังกายนอกจากจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยนะและเราไม่ควรลืมนำหูฟังหรือเพลงโปรดไปกับคุณเวลาวิ่งเพื่อเพิ่มความสนุกและแรงจูงใจในการออกกำลังกายด้วยเพื่อนๆ

เช็คราคาโปรโมชั่นวันนี้ที่LAZADA

ปวินญา

We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

TopReviewThailand : รีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าขายดี
Logo
Enable registration in settings - general